Control Ultimate Edition ซึ่งเป็นเกมแนวแอ็คชั่น-ผจญภัย มุมมองบุคคลที่สาม มีเรื่องราวเกี่ยวกับพลังพิเศษที่เหนือธรรมชาติ
เรื่องราวในเกมส์ PC นี้จะเกิดขึ้นในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่สายลับสาวสวยถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตที่มาจากโลกอื่น ผู้เล่นจะได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการควบคุมพลังพิเศษที่เหนือธรรมชาติ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของพลังและเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเพื่อใช้ในการต่อสู้กับศัตรู
ตัวเกมในเวอร์ชั่นนี้ยังมี Performance Mode ที่จะปลดล็อคให้เราเล่นเกมด้วยเฟรมเรต 60 FPS แต่จะปิดการทำงานของ Ray Tracing ซึ่งมันก็ยังคงความสวยงามของกราฟฟิคและไม่มีอาการเฟมเรตร่วง เล่นได้ลื่นๆ ซึ่งตัวเลือกการปรับโหมดกราฟฟิคทั้งสองแบบนี้ได้มอบประสบการณ์การเล่นที่ดีให้กับผู้เล่น โดยเราจะขอแนะนำให้เล่นในโหมด 60 FPS ที่จะทำให้ฉากแอคชั่นต่างๆ ดูลื่นไหลมากกว่า หรือจะเปลี่ยนเป็น Graphic Mode เพื่อหามุมสวยๆ แล้วใช้โหมดถ่ายภาพในเกมก็ได้ ไม่ว่ากัน
ในด้านของ DualSense ก็ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรให้น่าประทับใจมากเท่าไหร่ ถือว่ายังอยู่ในมาตรฐานของเกมส์ยิง แต่ระบบเสียงแบบ 3D ทำได้น่าประทับใจมาก และอีกอย่างที่ต้องชมเลยก็คือเรื่องของการโหลดฉาก หรือเปิดเกม จากเครื่อง Ps4 ที่จะกินเวลาตอนเปิดเกมราวๆ 2 นาที พอมาในเครื่อง Ps5 ก็ทำได้ไวมาก เหลือเพียงแค่ไม่กี่สิบวินาที
Control: Ultimate Edition ก็ยังคงเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม และได้รับการปรับปรุงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของตัวเกมให้ดีขึ้นไปอีก เหมาะกับคำว่าเป็นเกม Next-Gen กับเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ปริศนาที่รอให้เราไข ระบบแอคชั่นและการใช้พลังสุดมันส์ ตื่นตาตื่นใจ ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยเล่น ในเวอร์ชั่นนี้คุณก็ควรที่จะหามาลองให้ได้สักครั้ง
- ต้องการหน่วยประมวลผลและระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิต
- ระบบปฏิบัติการ: Windows 7, 64-bit
- หน่วยประมวลผล: Intel Core i5-4690 / AMD FX 4350
- หน่วยความจำ: แรม 8 GB
- กราฟิกส์: NVIDIA GeForce GTX 780 / AMD Radeon R9 280X
- DirectX: เวอร์ชัน 11
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 42 GB
- หมายเหตุเพิ่มเติม: Additional Features: Widescreen support 21:9 / Remappable controls / Uncapped frame-rate / G-Sync / Freesync support